Thursday, January 25, 2007

Mega Clever ฉลาดสุด ๆ

รายการ Mega Clever จะเล่นทุกวันพฤหัสบดี เวลา 20:30 น. ทางช่อง 9 เป็นรายการทดลองแล้วให้ผู้ร่วมรายการสองคนตอบคำถามทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งบางตอนก็จะเตรียมอุปกรณ์ที่เป็นของจริง ของจำลอง ทั้งที่ทดลองในห้องสตูดิโอ และนอกสถานที่ และหากการทดลองไหนที่อันตรายก็จะออกไปทำข้างนอก หรือทำแบบหลอก ๆ แล้วอธิบายให้ฟังว่าทดลองให้ดูไม่ได้เพราะมันอันตรายเกินไป เหมาะสำหรับการศึกษาความรู้เป็นอย่างดีครับ

คำถามประจำวันนี้ที่ 25 jan 2007 เท่าที่จำได้และเรียงสลับกันไปมา แบบคร่าว ๆ มีดังนี้
1. เพราะเหตุใดปลาเสือจึงพ้นน้ำได้แม่นยำ? (ปลาเสืออาศัยอยู่ในแม่น้ำแถวป่าอะเมซอน(คิดว่าน่ะ) มันจะพ้นน้ำใส่แมลงที่เกาะบนกิ่งไม้โดยเลงเป้าหมายจากใต้น้ำ และเมื่อเหยื่อโดนน้ำที่พ้นใส่แล้วตกลงมา มันยังไปฮุบกินเหยื่อได้อย่างแม่นยำอีกด้วย) มีตัวเลือกอยู่ 3 อย่างคือ
A: อาศัยการคำนวน
B: มีดวงตาแบบเหมือนการมองผ่านแว่นสองชั้น
C: อาศัยเสียงอัลตราไวโอเล็ต

คำตอบคือ ข้อ A: อาศัยการคำนวน (มันคำนวนได้สุดยอดจริง ๆ เลย)

2. สามารถใช้อะไรดังต่อไปนี้ชำระคราบเลือดที่ติดเสื้อผ้าได้
A: น้ำโคคาโคร่า
B: ยาแอสไพริน
C: หอมหัวใหญ่

คำตอบคือ ข้อ B: ยาแอสไพริน เพราะมันมีสารบางอย่างจำชื่อไม่ได้ช่วยในการทำให้เลือดไม่เกาะตัว สลายเลือดได้ เพราะฉะนั้นไม่คนที่เป็นโรคเลือดไหลไม่หยุด ไม่ควรทานยาประเภทนี้เด็ดขาด (คิดต่อยอดเองไม่เกี่ยวกับรายการเมกก้า เครพเวอร์)

3. หากเราใช้เพียงลิ้นลิ้มรสอาหารเพียงอย่างเดียว โดยไม่ใช้จมูกช่วยด้วยผลจะเป็นอย่างไร?
A: ดีขึ้น
B: ไม่แตกต่าง
C: ไม่รู้รสอาหาร

คำตอบคือ ข้อ B: คือไม่แตกต่าง เนื่องจากว่าลิ้นเรามีปุ่มรับรสหาอาหารอยู่ 5 ปุ่ม ฉะนั้นไม่ใช้จมูกก็สามารถจำแนกรสของอาหารได้ โดยปุ่มรับรสอาหารนั้นมีดังนี้
1. ปุ่มรับรสหวานอยู่ที่ปลายลิ้น
2. ปุ่มรับรสเค็มอยู่เลยปลายลิ้นเข้ามานิดหนึ่งไม่ถึงกลางลิ้นน่ะ
3. ปุ่มรับรสเปรี้ยวอยู่ที่ขอบลิ้นทั้งสองด้าน
4. ปุ่มรับรสขมอยู่โคนลิ้นด้านในสุด และรับรสได้ไว เพราะอาหารมีพิษมักมีรสขม
5. ปุ่มอาคูมิ อันนี้จำไม่ได้ว่าบริเวณไหน และรับรสอะไร แฮะ ๆ
แต่ว่าที่สำคัญยังไงการรับรสอาหารก็ยังต้องอาศัยจมูกถึง 80% อยู่ดีเพื่อให้การจำแนกรสอาหารทำได้ดีขึ้น

4. ทำไมเด็กเล็ก(อายุตั้งแต่ 4 ขวบถึงหนึ่งปี)ถึงสามารถดำน้ำได้
จำตัวเลือกไม่ได้ครับ แต่ว่าจำคำตอบได้ คือ การสัมผัส โดยในการทดลอง(โรงเรียนสอนว่ายน้ำเด็ก) เขาจะจับเด็กไว้เหนือน้ำแล้ว เอาน้ำรดจากศีรษะลงมาใบหน้าค่อยปล่อยเด็กลงดำน้ำ จำไม่ได้ว่ามิสเตอร์โบว์นิ่งอธิบายวิธีการทางวิทยาศาสตร์ว่าไง แต่คราว ๆ ประมาณนี้

Saturday, January 13, 2007

เคยค้นหาข้อมูลตัวเองใน Google ?

เล่าให้พี่ที่ทำงานฟังว่าการหางานทุกวันนี้หาง่ายน่ะ ฝากข้อมูลไว้ที่เว็บหางาน เช่น jobthai, jobpub, jobdb ฯลฯ พี่เขาบอกว่าระวังจะมีคนอื่น ๆ ที่จะเห็นข้อมูลเรา โดยเขาค้นหาจาก Google ก็จะเห็นข้อมูลเรา เอ... มันเป็นไปได้เหรอ เราก็นึกว่าน่าจะเห็นแต่ บริษัท ห้างร้านไหน ที่กำลังต้องการพนักงานแล้วเขาก็จะสมัครเป็นสมาชิกกับเว็บไซต์นั้น ๆ แล้วทางเว็บก็จะให้ username & passwd เพื่อเอาไปค้นหาผู้สมัครงานจาก นอกจากนี้ผู้สมัครงานก็มีความง่าย และรวดเร็วในการสมัครงานเหมือนกัน เพียงเลือกไปยังหมวดหมู่ที่ทางเว็บจัดไว้ให้ เช่น หมวดธุรการ หมวดเทคโนโลยี หมวดคอมพิวเตอร์ ฯลฯ สนใจตำแหน่งก็สมัครไปได้เลย ผู้ฝากข้อมูลไว้ในเว็บไซต์สมัครงานยังสามารถกำหนดได้ว่า จะให้แสดงข้อมูลส่วนตัวอะไรบ้างได้ด้วย เช่น ไม่ให้แสดงชื่อ-นามสกุลจริง, เบอร์โทร. อีเมล ฯลฯ นอกจากผู้ที่ลงทะเบียนเพื่อค้นหาพนักงานเท่านั้น ถึงจะเห็นข้อมูลส่วนนี้
ที่นี่จากคำถามที่พี่ที่ทำงานย้อนถาม ก็เลยเกิดความไม่สบาย ไปทดสอบดูจาก Google ไม่มีครับ หาไม่เจอ ไม่มีข้อมูลส่วนตัวเราที่ฝากไว้ในเว็บจ๊อบเลย มีแต่ข้อมูลที่อยู่ในเว็บรุ่น อันนี้เฉพาะคนน่ะครับ หากใครอยากรู้ก็ลองค้นหาชื่อตัวเองน่ะ และจะเจอข้อมูลคนที่ชื่อเหมือนเรา คนที่นามสกุลเดียวกับเรา หากเราค้นนามสกุลด้วย ก้อเป็นการหาญาติไปในตัวด้วย อิอิ...
ทีนี่ก้อลองไปค้นจากเว็บที่เราฝากประวัติไว้ ก็ไม่เจอเหมือนกันครับ สบายใจแล้ว

ซื้อคอมพิวเตอร์ที่พันธุ์ทิพย์

เป็นอีกวันเสาร์ที่ต้องตื่นแต่เช้าสัก 8 โมงเช้า ไอ้นุโทรมาปลุกแต่เช้าเลยบอกว่าจะมาซื้อคอมพิวเตอร์ให้โรงเรียน หลังจากประมูลได้ไม่กี่วันนี่เอง รวดเร็วทันใจจริงประมูลได้ปั๊บ ซื้อปุ๊บเลย
ไปถึงพันธุ์ทิพย์เที่ยงพอดี มันรออยู่ก่อนหนึ่งชั่วโมง แล้วก็เริ่มเดินซื้อของกัน ต้องซื้อแบบแยกชิ้นส่วนกันแล้วค่อยเอาไปประกอบเป็นเครื่องที่บ้าน นุเช่ารถปิ๊กอัพมาจากบ้านในราคา 4000 บาท แพงเหมือนกันนะ กว่าจะได้ของครบก็ปาเข้าไปบ่าย 3 โมงเลย รูดการ์ดไป 35000 บาท และให้มันยืมอีก 1000 บาท มันบอกว่าวันจันทร์จะโอนเงินคืนมาให้ ก็โอเค ให้รุ่ง ๆ นะเฟ้ย อบต. นุ

Friday, January 12, 2007

ย้าย Mail Server

และแล้ววันแห่งวันเวลารอคอยก็มาถึง การย้ายเครื่อง Mail server ได้สำเร็จเสร็จสิ้นไปตามคาด แต่เลยกำหนดเวลาออกไป 1 ชั่วโมง อันด้วยเหตุผลหลายอย่าง ดังนี้
1. การเซท LAN ให้กับเครื่อง Notebook, เครื่อง Mail Server สำรอง และเครื่อง Mail Server ตัวเดิม ซึ่งติดขัดนิดหน่อยเนื่องจากเป็นครั้งแรก และอุปกรณ์มันเยอะเกินไป ดีที่ว่าเครื่อง Mail Server ตัวเดิมนั้นมีพอร์ทแลน 2 พอร์ทเลยง่ายหน่อย โดยใช้พอร์ทที่สองเซ็ทเป็น Local LAN เพื่อใช้ในการโอนย้ายเมล
2. เซทไปเซทมากลายเป็นว่าเครื่อง Mail Server ตัวเดิมคีย์บอร์ดเจ๊งซะอีก ตอนแรกนึกว่าเครื่องพัง Restart แล้ว Restart อีกก็ใช้คึย์บอร์ดไม่ได้สักที ทั้ง ๆ ที่ก่อนบู้ตเข้าระบบมันใช้การได้อยู่ เลยขอคีย์บอร์ด USB จากเจ้าหน้าที่โปรเอ็น ตอนแรกนึกว่ามันจะมองไม่เห็นคีย์บอร์ด USB นี่ถ้ามองไม่เห็นนนะแย่เลย แต่ปรากฎวาใช้ได้ แล้วมันดันเด้งค่า Default Firewall กลับมา โดยที่เราไม่รู้ว่ามันติดปัญหา Firewall ก็จัดการแชร์ไฟล์ แต่เข้าไปเอาข้อมูลไม่ได้สักที พอใจเย็น ๆ ตรวจสอบระบบอีกที อ้อมันเป็นที่ Firewall นี่เองก็เลยจัดการปลดมันออกซะเลย ที่นี่ก็สามารถโอนข้อมูลได้แล้ว
3. หลังจากโดนข้อมูลและนำกลับเสร็จแล้ว ก็ไล่คอนฟิก Spam ซึ่งเยอะมาก ๆ เล่นเอาซะเหนื่อยเลย

สรุปปัญหาในวันนี้ก็คือเรื่องความพร้อมในการเซทระบบ LAN ต้องเตรียมตัวไปให้ดี ไม่งั้นจะช้าอยู่ตรงนี้ละ และก็อย่าลืมเตรียมน้ำ เตรียมขนมไปด้วยหากท่านคิดจะย้าย Mail Server ในช่วงเวลาใกล้เที่ยงเพราะมันอาจติดพัน จนไม่ได้กินข้าวเที่ยงอย่างเช่นวันนี้ แต่วันนี้ก็ได้ความรู้และประสบการณ์ที่มีค่ายิ่งเหมือนกัน เพราะทุกอย่างเป็นคนทำระบบเองหมด เป็นความภาคภูมิใจลึก ๆ ว่าเราก็ทำได้เหมือนกัน แต่ยังเหลืองานหินอยุ่อึกคือทำเครื่อง Mail Server ตัวเดิมแล้วนำกลับไปใช้เหมือนเดิม อีกอย่างตัวนี้หนักมากประมาณ 4-5 กก. ยกมาทีนี้กล้ามแขนขึ้นเลย อย่างเช่นวันนี้พอทำเสร็จก็ยกลงมาจากตึก กสท. โอ้โห้สุด ๆ เลยแล้วอีกอย่างไกลถนนมาก พอยกมาถึงถนนรถแท็กซี่ก็ดันไม่ยอมจอด รอเป็นครึ่งชั่งโมงก็ไม่มา ถึงมาก็ไม่ยอมจอด หิวข้าวสุด ๆ เลย ไป ๆ มา ๆ ก็เลยต้องจำใจเรียกรถตุ๊กตุ๊กไม่งั้นงานนี้คงได้กลับบริษัทช้าเป็นแน่

พอกลับมาถึงบริษัทมีปัญหาอีกแระเรื่องด่วน จากคูณเล็กเครื่องพีซีเจ๊งเอามาให้ซ่อม แล้วต้องส่งกลับวันจันทร์ด้วย ก็เลยต้องอยู่ซ่อมจนถึงสองทุ่มกว่าจะได้กลับ ขึ้เกียจมีปัญหากับคุณเล็ก พูดกันไม่ค่อยรู้เรื่องเลย...

เนื่อยมากนอนดีก่า ไว้พรุ่งนี้ค่อยมาไล่ดูปัญหาว่าจะมีอะไรบ้าง ต้องคอยเช็ค Mail Server ว่ามันใช้งานได้ดีอยู่ไหม หากมีปัหญาจะได้รีบแก้ไขได้ทัน

Sunday, January 7, 2007

My Picture's

This link is path to my picture's

Saturday, January 6, 2007

แคมกบ(แคมฟอกซ์)คือลมหายใจ

เป็นเวลาอันยาวนานที่ชายชราคนหนึ่งใช้เวลาตลอดทั้งเดือน ตื่นนอนแต่เช้าเพื่อมาทำกิจวัตรประจำวันของแก นั่นก็คือการเข้าไปม้อในแคมกบ เป็นอะไรที่ติดแล้วเลิกยากมาก ใครจะรู้ว่าแคมกบได้เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของแกจากหน้ามือเป็นหลังตีนอย่างงี้ ก่อนหน้านั่นแคมกบยังไม่เป็นที่แพร่หลายในบ้านเรา แกได้รู้จักแคมกบจากเพื่อนคนหนึ่ง เพื่อนที่หวังดีและมองเห็นในความม้อของแก ทุกวันนี้ทุกลมหายใจเข้าออก ไม่ว่าจะเป็นช่วงกินข้าว ซักผ้า เดินไปตลาด เดินลงบันได ... ทุกลมหายใจคือแคมกบ ห้องที่แกชอบเขาไปหมกมุ่นอยู่ประจำคือ junrai ฟังชื่อก็ไม่น่าจะต้องแปลให้สะเทือนปอด ม้าม และไต ที่นี่มีแต่เรื่องอโคจร เรื่องอัปมงคล ไม่ว่าจะเป็นการแก้ผ้าโชว์ การเต้นโชว์ของบรรดาแคมกบทั้งหมาย นั่นคือความสุขอย่างมากมายของชายชรา ถึงแม้ว่าวันนี้แคมกบจะเปลี่ยนไปจากการเข้ามาแทรกแซงของรัฐบาล ผู้หวังดีต่อเยาวชน แต่ทำลายชายชราโดยไม่รู้ตัว โดยการไม่ให้มีการโชว์ต่าง ๆ นั่นคือการทำอนาจารไม่เหมาะสม เป็นอันตรายต่อสุขภาพ แต่มันคือความกระชุมกระชวยของชายชรา แต่นั้นก็ใช่ว่ามันจะเป็นความล้มเหลวของแคมกบ มันยังมีที่อื่นให้ชายชราไม่หดหู่ใจได้ นั่นคือห้องของต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศจีน วู้ขาวเป็นบ้าเลย... อิอิ ชายชรากระหยิ่มยิ้มย่องในใจ

ทุกวันนี้สิ่งที่ชายชราได้เฝ้าเพียรทำมันได้สัมฤทธิ์ผลออกมาแล้ว นั่นก็คือบิลค่าน้ำ ค่าไฟ ได้เพิ่มเป็นพูลทวี การไม่หลับไม่นอนส่งผลให้การไฟฟ้าได้เก็บเงินค่าไฟเพิ่ม ค่าน้ำนั่นเพิ่มจากการที่หลงเปิดน้ำทิ้งไว้ เพราะม้อหน้าจอนานไปหน่อย แต่นั้นก็ไม่ได้ทำให้แคมกบต้องปิดตัวไป ความรักในแคมกบยังคงดำเนินต่อไป ถึงแม้ตั้งแต่เล่นแคมกบมาแกจะยังไม่เคยได้คุยกับใครก็ตาม แต่การถ้ำมองคือสิ่งหลัก การฟังเพลงคือผลพลอยได้ การซึมซาบคำหยาย ๆ ของดีเจคือวิตามินบำรุงสันดาน การได้เห็น การได้เชียร์ให้เปิด โชว์ ถอด เป็นการแสดงออกที่ปลดปล่อยสิ่งที่อัดอั้นตันใจ จากการบีบคั้นของรถติด ของการวางระเบิด และมันเป็นประชาธิปไตยของคนยุคนี้ที่ต้องเปิดเผย

แคมกบจงเจริญ แคมกบคือของรักของข้า ชายชราคนนี้จะรักแคมกบตลอดไป ด้วยความหวังดีจากกาแฟแบ็คอัพ สนับสนุนการม้ออย่างเป็นทางการ...

ภาพถ่าย

เป็นภาพถ่ายเล่น ๆ จากกล้องเว็บแคม จริง ๆ แล้วเมื่อแอดภาพลงในแล้วมันจะเรียงเป็นแถวเดียวลงมาหมดเลย แต่เราสามารถจัดให้มันเรียงได้อย่างภาพด้านล่าง โดยเราจะต้องเข้าใจภาษา html นิดหน่อย โดยการเขียน table แทรกลงไป ลองเขียนให้ดูแล้วแต่ว่า preview แล้วมันไม่เห็นโค้ดเลย หากอยากรู้วิธีการเขียนก็ search จาก google แล้วกันมันพื้นๆ






















Thursday, January 4, 2007

ปัญหาลูกค้าส่งเมลมาแต่เราไม่ได้รับ

ปัญหานี้มันเกิดขึ้นมาประมาณเดือนเศษ ๆ แล้ว ผมก็ไม่รู้ว่าจะพิสูจน์หรือติดตามได้ว่าทำไมเราถึงไม่ได้รับเมลจากลูกค้า ทีนี่พอมันหนักขึ้นเรื่อย ๆ ผมก็เลยต้องทำการตรวจเช็ค เริ่มจากการมองตัวเราเองก่อนเลย ไล่ตรวจดูว่าเมลเซิร์ฟเวอร์มีปัญหาอะไรไหม การส่งเมลออกไปแล้วมันไปค้างอยู่ที่ใคร ซึ่งก็ได้ผู้ร่วมสังฆกรรมาด้วยกัน 3 เจ้า เจ้าแรกเลยตัวเมลเซิร์ฟเวอร์ของบริษัท เจ้าที่สองก็คือ ISP ซึ่งก็คือทรูนั้นเอง เจ้านี้เกี่ยวข้องในฐานะผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตเพราะผมตั้งค่า stmp ชี้ไปที่เขา หมายถึงให้เขาเป็นผู้ส่งเมลให้นั่นเอง และเจ้าสุดท้ายคือ กสท. ซึ่งเป็นที่ฝากเครื่องเมลเซิร์ฟเวอร์นั้นเอง ทางบริษัทต้องจ่ายค่าเช่าที่วางเครื่องเดือนละ 3500 บาท ให้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีความสูง 15 นิ้ว กว้าง 7.5 นิ้ว(ใหญ่กว่าพีซีทั่วไปไม่มากนัก) ซึ่งมันแพงกว่าค่าเช่าห้องผมอีกต่างหาก

ในตอนแรกนั้นเริ่มจากทางพนักงานแจ้งว่าส่งเมลไปให้ลูกค้า แต่ลูกค้าบอกไม่ได้รับ หรือบางทีส่งไป 8.00 น. มันไปถึงลูกค้า 15.00 น. ผมเลยนึกว่าเอาว่ามันต้องไปนั่งเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิ แล้วก็บินไปยังประเทศปลายทางกว่าจะถึงสนามบินแล้วต้องออกจากสนามบินไปสู่ปลายทางอีก มันจึงช้าตรงลงจากเครื่องนีล่ะ วุ้ย..ไปนู้นเลย การแกะรอยเริ่มจากขออีเมลปลายทางที่ส่งไป แล้วเอาไปตรวจสอบกับ isp ทางทรูก็ยืนยันกลับมาว่าเมลที่เราให้ตรวจสอบ มันผ่านเขาออกไปแล้ว ทีนี่ถ้าจะตรวจสอบว่าถึงเขาไหมก็ต้องตรวจสอบที่ isp และเมลเซิร์ฟเวอร์เขา ว่าเมลเราติด black list หรือป่าว ซึ่งต้องให้ administrator หรือ engineer หรือผู้ดูแลระบบแต่ละที่เป็นผู้ตรวจสอบเท่านั้น สุดท้ายปัญหานี้ก็ผ่านพ้นได้ด้วยดี โดยผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าฝ่ายลูกค้าเขาได้ทำอะไรบ้าง แต่ตอนนี้ส่งเมลไปเขาได้รับแล้ว เฮ้อ! โครตมึนเลยปัญหานี้ เพราะว่ามันต้องติดต่อกับต่างประเทศ ไม่ใช่ติดต่อกับบ้านเรา อีกอย่างภาษาอังกฤษเราก็ไม่ได้ ต้องให้คนอื่นช่วยตลอดเลย

ทีนี่หลังจากปัญหาแรกผ่านพ้นไปได้ไม่นาน มาอีกแล้วครับท่าน เจ้าเดิมปัญหาคือเขาส่งเมลมาให้เรา แต่เราไม่ได้รับ ทำไงดีฟะเนี๊ยะ เดิน ๆ วน ๆ กลับไปกลับมา ปิ๊ง! คิกออกแล้ว ให้มัน(ลูกค้า)ส่งมาสองฉบับเลยแล้วกัน โดยส่ง cc มาที่ hotmail ด้วยดูสิมันจะมาไหม ผลปรากฎว่ามันมาครับ มันมาที่ hotmail แต่มันไม่เข้าเมลบริษัท มันหายไปไหนละทีนี่ คิด คิด คิด สิ คิด หมากฝรั่งคิด คิด งั้นลองตรวจเช็คกับเจ้าที่สาม นั่นก็คือ กสท. เขาก็บอกว่าเมลมันตรงดิ่งจากทุกที่มาที่เครื่องเมลเซิร์ฟเวอร์บริษัทเลย ไม่ผานเขา เขาตรวจไม่ได้ ให้ผมเช็คเครื่องเมลเซิร์ฟเวอร์บริษัทผมดูก่อนว่าติด spam list ไหม ก็เลยต้องไล่เจียระไนเครื่องละทีนี่ ไล่ไปไล่มาดูค่าคอนฟิกต่าง ๆ ไม่มี ไม่เจอ ดู log mail ก็ไม่เจอว่ามีเข้ามาถึงเมลเซิร์ฟเวอร์เลย แต่ว่าพบช่องโหว่เยอะมาก จึงปรึกษากับพี่เกรียงไกร ซึ่งเป็น engineer ที่ปรึกษาบริษัท พี่เขาเลยแนะนำให้ทำเครื่องใหม่ แล้วคอนฟิก firewall ใหม่ อันนี้ไม่ได้เกี่ยวกับการที่รับเมลจากลูกค้าไม่ได้ในตอนนี้น่ะ มันเป็นเรื่องของความปลอดภัยของระบบ ก็เลยต้องทำระบบใหม่อีกครั้งตอนนี้ทำเสร็จแล้วรอย้ายระบบอย่างเดียว เลิกหามยามดีที่วางไว้ก็กะว่าสักวันศุกร์ที่ 12 มกราคม 2550

ยังไม่จบปัญหาการรับเมลจากลูกค้าเจ้านี้ยังไม่จบ ทำไงดีละทีนี้เช็คที่ตัวเราแล้วก็ไม่เห็นมีเข้ามา แต่ทำไม hotmail ถึงได้รับ ก็เลยนึกย้อนกลับไปที่คอนเสปแรก คือการส่งเมลนั่นเอง คือต้องให้เขาตรวจสอบทางเขาว่าส่งเมลผ่านออกมาหรือยัง แต่ถ้าไม่ผ่านออกมาทำไม hotmail มันได้รับล่ะ นั่นนะสิ จริง ๆ แล้วมันต้องตรวจสอบที่ isp ของเขาด้วยว่ามันบล็อกเมลบริษัทเราไว้หรือเปล่า มันอาจไม่บล็อก hotmail ชื่อนี้ก็ได้มันเลยผ่านออกมาได้ ซึ่งกระบวนการนี้ก็ต้องให้ทางเขาเป็นผู้ตรวจสอบหาสาเหตุเหมือนที่เราทำตอนแรก แต่ปัญหาก็คือไม่รู้ว่ามันจะเข้าใจ แล้วทำตามที่เราแนะนำไปหรือเปล่า อีกอย่างผมก็ไม่ได้คุยกับเขาโดยตรง ให้ sam ซึ่งเป็นพนักงาน Import มาจากอินเดียเป็นผู้ติดต่อให้อีกที การคุยกับ sam ก็ต้องผ่านล่าม ซึ่งนั่นก็คือพี่หญิงใจดีเป็นผู้สื่อให้ ปัญหานี้ยังไม่ได้รับการแก้ไขเลย เจ้านายก็เร่งอยู่นั้น ในส่วนตัวก็มองว่ามันเหนือการควบคุมน่ะ เพราะว่ามันเป็นแค่เจ้าเดี่ยว ถ้าหากว่าระบบล้ม รับส่งเมลไม่ได้สักเจ้านี่ก็ว่าไปอย่าง แต่ถึงแม้ว่าเราจะมองว่ามันเกินควบคุมก็จริง แต่สำหรับเรื่องธุรกิจแล้ว มัน Big problem เกลียดจริง ๆ เลยคำนี้เจ้านายชอบใช้บ่อย และก็เร่งให้ปัญหานี้แก้ให้เสร็จโดยเร็วอยู่นั่นแหละ

โมโห้ โมโห้ โมโห้ คือบ้า เพราะโกรธคือโง่ โมโห้คือบ้า ห้า ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ตายยยยยย......

คำขอโทษ

อยู่ ๆ ก็ได้รับคำกล่าวที่ทำให้รู้สึกสะเทือนใจ รู้สึกเสียใจกับเรื่องที่มันเกิดขึ้น จากผู้หญิงคนหนึ่ง ผมรู้จักเธอจากเว็บไซต์แห่งหนึ่ง ก็คุยกันเล่นไม่ได้พูดเชิงชู้สาวอะไรน่ะ ก็คุยกันเวลาที่เธออยากจะผ่อนคลาย เวลาเครียด พอดีว่าผมนี้มันนิสัยเสียตรงที่ปากมันไว ชอบคุยชอบแหย่ไอ้เรื่องไม่เป็นเรื่องคุยแบบไร้สาระ ถนัดเลย เพราะผมคิดว่าการทำให้ใครสักคนหนึ่งที่ผมมีความรู้สึกว่าเขามีความทุกข์ หรือทำงานหนัก ๆ เจอปัญหาที่รุมเร้า แล้วเราช่วยให้เขาได้หัวเราะ ได้ผ่อนคลาย มันน่าจะดีในการสร้างความหรรษาให้แก่กัน แต่เรื่องที่ผมไม่คิดว่าจะมีผลกระทบอะไรกับเธอ ก็เกิดขึ้นจากกลอนบทนั้น กลอนบทเดียวที่เปลี่ยนแปลงความรู้สึก เปลี่ยนแปลงทัศนคติของผมที่มีต่อคู่สนทนา หรือคนที่เราได้พบป่ะ "เธอบอกว่าต้องแยกแยะให้ถูก ว่าอะไรควรไม่ควร" ใช่ครับผมไม่ได้แยกแยะ ผมทำไปเพราะความสนุกเท่านั้นเอง ผมก็ไม่ได้คิดว่ามันจะทำให้มีผลต่อเธอและเพื่อนร่วมงาน ซึ่งผมกระทบนั้นผมก็ไม่อยากเอยถึง เพราะสภาพแวดล้อมการทำงานของคนมันต่างกัน สุดท้ายนี้ผมก็ขอโทษจากใจจริง นะครับ...

บ้านหลังใหม่

ที่นี่จะเป็นบ้านหลังใหม่ เรื่องราวทั้งหมดจะเกิดขึ้นที่นี่ จารึกแห่งความทรงจำทั้งที่ดีและไม่ดีผ่านวันเวลาที่หมุนไปอย่างไม่หยุดนิ่ง จะถูกบันทึกไว้ที่นี่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของไดอะรี่ คอมพิวเตอร์ ไอที บทกลอน เรื่องสั้น จะรวมอยู่ในบล็อกแห่งนี้แน่นอน
บ้านหลังเก่าอยู่ที่นี่ http://akomee.spaces.live.com ซึ่งมีปัญหาในการใช้งานมากในเรื่องของการโหลดช้า ภาษาต่างดาว..