หลักเกณฑ์การชำระหนี้ |
|
มาตรการในการติดตามหนี้ กรณีผู้กู้ค้างชำระ |
|
วิธีนับระยะเวลาครบกำหนดชำระหนี้ |
ตัวอย่าง ผู้กู้ยืมสำเร็จการศึกษาหรือเลิกการศึกษาในปีการศึกษา 2545 ผู้กู้ยืมจะครบกำหนดชำระหนี้งวดแรกภายในวันที่ 5 กรกฎาคม 2548 |
![]() |
ช่องทางในการชำระหนี้คืน สามารถเลือกช่องทางในการชำระหนี้ได้ 3 วิธี |
1. ชำระที่เคาน์เตอร์ธนาคาร ผู้กู้ยืมสามารถชำระหนี้มากกว่าหรือเท่ากับหรือน้อยกว่าจำนวนเงินที่ต้องชำระก็ได้ ผู้กู้ยืมจะได้รับใบรับเงินเพื่อกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาเก็บไว้เป็นหลักฐาน 2. ชำระโดยการหักบัญชีอัตโนมัติจากบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ของผู้กู้ยืม ผู้กู้ยืมจะต้องแจ้งความประสงค์กับธนาคาร ให้หักบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ของผู้กู้ยืม ที่เปิดไว้ตอนทำสัญญากู้หรือบัญชีเงินฝากออมทรัพยที่ผู้กู้ยืมเปิดใหม่ และผู้กู้จะต้องนำเงินเข้าบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ ที่ผู้กู้ยืมเปิดใหม่ และผู้กู้จะต้องนำเงินเข้าบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ก่อนวันที่ 5 กรกฎาคมของทุกปี (กรณีชำระหนี้เป็นรายปี) หรือก่อนวันที่ 5 ของทุกเดือน (กรณีชำระหนี้เป็นรายเดือน) ผู้กู้ยืมจะต้องนำบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ไปรับรายการหักบัญชีที่สาขาและเก็บไว้เป็นหลักฐาน 3. ชำระหนี้ทางตู้ ATM ของธนาคารกรุงไทยฯ ทั่วประเทศ โดยใช้เลขที่บัตรประชาชนเป็รรหัสทำรายการ การชำระหนี้วิธีนี้ ต้องเก็บสลิป ATM ไว้เป็นหลักฐานด้วย หมายเหตุ : ในขณะนี้ ธนาคารกรุงไทยได้ทำการปรับปรุงบริการการรับชำระหนี้ทาง ATM ทำให้ไม่สามารถใช้บริการผ่านทางนี้ได้ หากดำเนินการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทางกองทุนฯ จะแจ้งให้ทราบค่ะ |
อนึ่ง การให้บริการรับชำระหนี้ทั้ง 3 ช่องทางนี้จะต้องเสียค่าธรรมเนียมครั้งละ 10 บาท |
วิธีการชำระหนี้ |
1. การติดต่อชำระหนี้ครั้งแรก ผู้กู้ยืมทุกรายต้องติดต่อแสดงตนในการชำระหนี้ที่ธนาคารกรุงไทยฯ สาขาใดก็ได้ที่ท่านสะดวกโดยขอให้ผู้กู้ยืมดำเนินการดังนี้ 1.1 กรอกหนังสือแสดงตนในการชำระหนี้ (กยศ.201) และเก็บสำเนาไว้เป็นหลักฐาน 1.2 หากผู้กู้ยืมประสงค์จะเปลี่ยนงวดการชำระหนี้จากรายปีเป็นรายเดือนสามารถทำได้ โดยให้ผู้กู้ยืมแจ้งความประสงค์ดังกล่าวกับพนักงานของธนาคาร 1.3 แจ้งจำนวนเงินที่ผู้กู้ยืมประสงค์จะชำระหนี้งวดแรกพร้อมชำระหนี้กับพนักงานของธนาคาร โดยผู้กู้ยืมจะได้รับใบรับเงินเพื่อชำระหนี้กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา เก็บไว้เป็นหลักฐาน 2. การชำระหนี้ครั้งต่อไป ผู้กู้ยืมสามารถชำระหนี้ ได้ตามวิธีใดวิธีหนึ่งของการชำระหนี้ทั้ง 3 วิธีตามที่กล่าวข้างต้น |
การชำระหนี้ก่อนกำหนด |
1. ผู้กู้ยืมสามารถชำระหนี้คืนกองทุนฯทั้งหมดหรือบางส่วนในช่วงก่อนสำเร็จการศึกษา หรือช่วงระยะเวลาปลอดหนี้ 2 ปีได้โดยผู้กู้ยืมไม่ต้องเสียดอกเบี้ย 2. กรณีที่ผู้กู้ยืมยังไม่สำเร็จการศึกษา ผู้กู้ยืมสามารถหยุดพักชำระหนี้และสามารถกู้ยืมเงินต่อไปในปีการศึกษาที่เหลือได้ |
กรณีผู้กู้ยืมศึกษาอยู่ หรือสำเร็จการศึกษาไม่ถึง 2 ปี |
1. กรณีที่ผู้กู้ยืมเป็นผู้ครบกำหนดชำระหนี้แล้ว แต่ผู้กู้ยืมกำลังศึกษาอยู่ให้ผู้กู้ยืมนำรายงานสถานภาพการศึกษา (กยศ.204) หรือหนังสือรับรองการเป็นนักเรียนหรือนักศึกษาของสถานศึกษาที่รับรองสำเนาถูกต้องแล้วไปให้ธนาคารเพื่อชะลอการชำระหนี ้และหากในปีต่อๆ ไป ผู้กู้ยืมยังไม่สำเร็จการศึกษาหรือเลิกการศึกษา ให้ผู้กู้ยืมนำเอกสารดังกล่าวไปให้ธนาคารตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมของทุกปีเป็นต้นไป จนกว่าผู้กู้ยืมจะสำเร็จการศึกษาหรือเลิกการศึกษา 2. กรณีที่ผู้กู้ยืมเป็นผู้ครบกำหนดชำระหนี้แล้ว แต่ผู้กู้ยืมดังกล่าวสำเร็จการศึกษาไม่ถึง 2 ปี ให้ผู้กู้ยืมนำหนังสือรับรองการสำเร็จการศึกษาหรือใบปริญญาบัตร หรือใบประกาศนียบัตร หรือรายงานผลการศึกษา (Transcript) ของสถานศึกษาที่รับรองสำเนาถูกต้องแล้วไปให้ธนาคารเพื่อชะลอการชำระหนี้ |
![]() |
กรณีการขอผ่อนผันชำระหนี้ ผู้กู้ยืมต้องดำเนินการให้เสร็จสิ้นก่อนวันที่ครบกำหนดชำระหนี้แต่ละงวด หากผู้กู้ยืมยังไม่ชำระและพ้นวันที่ครบกำหนดชำระแล้ว (5 กรกฎาคม ของทุกปี) ถือว่าผู้กู้ยืมค้างชำระหนี้จะต้องเสียเบี้ยปรับ และถูกติดตามหนี้จนกว่าจะได้รับอนุมัติผ่อนผันชำระหนี้ จึงระงับการติดตามและถือเป็นหนี้ปกติต่อไป |
การยกเลิกสัญญาฯ ระหว่างการศึกษา |
การยกเลิกสัญญาฯ ระหว่างปีการศึกษา เกิดขึ้นได้ตามความประสงค์ของผู้กู้ยืมเองหรือยกเลิกสัญญาฯ โดยกองทุนฯ เนื่องจากผู้กู้มีคุณสมบัติไม่ถูกต้องหรือความประพฤติไม่เหมาะสม ผู้กู้ยืมมีหน้าที่ต้องชำระหนี้คืนกองทุนฯ ภายใน 30 วัน หรือภายในเวลาที่ได้ทำความตกลงกับกองทุนฯ โดยผู้กู้ยืมจะติดต่อทำหนังสือยกเลิกและชำระหนี้ทั้งหมดได้ภายใน 30 วัน ธนาคารจะส่งเรื่องให้กองทุนฯ พิจารณาเป็นรายไป กรณีที่ผู้กู้ยืมเงินกองทุนฯ ถึงแก่ความตายหนี้ตามสัญญากู้ยืมฯ เป็นอันระงับไป ทั้งนี้ทายาทหรือสถาบันต้องส่งสำเนาใบมรณบัติที่รับรองโดยเจ้าหน้าที่ราชการผู้มีอำนาจให้ธนาคารทราบ และกรณีผู้กู้พิการ หรือทุพพลภาพจนไม่สามารถประกอบการงานได้ ให้ขอผ่อนผันจากคณะกรรมการฯ เป็นกรณีๆ ไป |
http://www.studentloan.or.th/index.php?option=com_content&task=view&id=28&Itemid=145
No comments:
Post a Comment